หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรีหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรีหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรีหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรีหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรีหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรี
รหัสสินค้า ็H004
หมวดหมู่ หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ จ.เพชรบุรี
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 17 มี.ค. 2559
อัพเดทล่าสุด 17 มี.ค. 2559
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ประวัติหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
 "หลวง พ่อแดง" หรือ "พระครูญาณวิลาศ"  อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ  เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2422 เกิดที่ ต.บางจาก อ.เมือง จ.เพชรบุรี บิดาชื่อนายแป้น มารดาชื่อนางนุ่ม นามสกุล อ้นแสง  ในวัยเด็กท่านก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ ทำนา ไม่มีโอกาสร่ำเรียนหนังสืออย่างเด็กสมัยนี้จนกระทั่งอายุ 20 ปี พ่อแม่ก็หวังจะให้บวชเรียน จึงพาไปฝากกับท่านอาจารย์เปลี่ยน วัดเขาบันไดอิฐ เพื่อจะได้เล่าเรียนและบวชเป็นพระภิกษุต่อไป
 
            พระภิกษุแดง เมื่อได้ บวชก็ประพฤติเคร่งครัดต่อพระวินัยและปฏิบัติต่อพระอาจารย์เปลี่ยนเป็นอย่าง ดี อาจารย์เปลี่ยนจึงรักใคร่มากกว่าศิษย์คนอื่นๆ และยังไดสอนวิชาการวิปัสสนา และวิธีนั่งปลงกัมมัฏฐานให้ รวมถึงถ่ายทอดวิชากฤตยาคมให้อย่างไม่ปิดบังหวงแหน เหตุนี้จึงทำให้พระภิกษุแดงเพลิดเพลินในการศึกษาวิชาความรู้ จนลืมสึก ยิ่งนานวันก็ยิ่งสำนึก ในรสพระธรรม ก็เลยไม่คิดสึกเลย จึงกลายเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีอาวุโสสูงสุดจนกระทั่งพระ อาจารย์เปลี่ยนมรณภาพลง พระภิกษุแดงรับหน้าที่เป็นสมภารวัดเขาบันไดอิฐแทน กลายเป็น "หลวงพ่อแดง" ตั้งแต่ พ.ศ. 2461 เป็นต้นมา และแม้ท่านจะได้เป็นสมภารซึ่งต้องมีภารกิจมาก แต่ท่านก็ยังปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิในถ้ำเพื่อแสวงหาวิมุตติภาวนาทุกวัน ญาณสมาธิจึงแก่กล้า จิตนิ่ง บริสุทธิ์ จนว่ากันว่าท่านมีหูทิพย์ ตาทิพย์  หลวงพ่อแดงไม่เคยอวด อ้างในญาณสมาธิของท่าน แต่ผลของความศักดิ์สิทธิ์ในเลขยันต์เป่ามนต์ของท่านก็ได้สำแดงออกมาให้ ประจักษ์ว่าคุ้มครองป้องกันภัยได้แน่ๆ โดยมีเรื่องเล่ากันมาว่า ใน ระหว่าง พ.ศ. 2477 ถึง พ.ศ. 2480 เวลานั้นเกิดโรคระบาดสัตว์ วัวควายเป็น โรครินเดรอ์เปรส ซึ่งเป็นโรคปากเท้าเปื่อยที่ติดต่อร้ายแรง พากันล้มตายเป็นเบือ สัตว์แพทย์ก็ไม่มี ต้องขอให้ทางการมาช่วยฉีดยา ราษฎรจึงพากันไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้ด้วย
 หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกลงเลขยันต์ในผืนผ้ารูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ แจกให้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวควายนำไปผูกปลายไม้ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน ปรากฏผลว่า คอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดงไม่ตายเลย ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐ เมื่อรู้กิตติศัพท์จึงพากันมาขอยันต์หลวงพ่อแดงทุกวันมิได้ขาด
             กระทั่ง เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือมหาสงครามเอเชียบูรพา มีทหารญี่ปุ่นมาขึ้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ก็เกิดการต่อสู้กับทหารอากาศของไทยที่นั่น ชาวเพชรบุรีก็ตระหนกตกใจ แล้วชักชวนกันหาหลวงพ่อแดง ท่านก็ลงผ้าประเจียดยันต์แจก ให้คุ้มครองป้องกันตัว
 
 เมืองเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ. 2487 เกิดภัยสงครามชนิดร้ายแรง มีระเบิดลงทุกวันทำลายสถานีรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำ บ้านเรือน โรงเรียนต้องสั่งปิด ข้าราชการไม่ได้ไปทำงาน ทุกหน่วยราชการปิดหมด และปรากฏเรื่องเป็นที่ฮือฮาว่า บ้านคนที่มีผ้ายันต์หรือห้อยเหรียญหลวงพ่อแดง กลับไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย หลวงพ่อแดงจึงดังใหญ่ จนสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 กิตติคุณของหลวงพ่อในทางกฤตยาคมจึงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์แพร่หลายยิ่งขึ้น
            ความ ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแดงปรากฏอีกครั้ง เมื่อเกิดคอมมิวนิสต์ญวนเหนือบุกญวนใต้ ประเทศไทยต้องส่งกองพันเสือดำ ออกไปช่วยพันธมิตรรบในญวนใต้ ก็ปรากฏว่าทหารไทยที่ไปปฏิบัติหน้าที่รบในเวียดนาม คนที่มีเหรียญหลวงพ่อแดงห้อยคออยู่ ไม่ถูกอาวุธเป็นอันตรายแก่ชีวิตสักคน ทั้งๆ ที่เข้าประจัญบานอย่างหนัก เป็นที่สงสัยของเพื่อนทหารต่างชาติว่าทหารไทยมีของดีอะไร ได้รับคำตอบจากทหารไทยว่ามี "เหรียญหลวงพ่อแดง"
 ท่านเป็นพระ ใจดีมี เมตตาสูง และอารมณ์ดีเสมอ ไม่ชอบดุด่า ว่าใคร โดยเฉพาะคำหยาบคายถึงพ่อแม่ ท่านห้ามขาด ท่านว่าทุกคนเขาก็มีพ่อมีแม่ การด่าถึงบุพการีทำให้ความดีงามเสื่อมถอย ถึงห้อยพระพระท่านก็ไม่คุ้มครอง

 

เหรียญรุ่นหนึ่ง เนื้อทองแดง พิมพ์นิยม
 
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๒ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูญาณวิลาศ" พร้อมรับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ ลูกศิษย์จึงได้ทำการฉลองสมณศักดิ์ให้ท่าน

ในการนี้ท่านได้สร้างเหรียญขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงาน นับว่าเป็นเหรียญรุ่นที่หนึ่งของท่าน เป็นเหรียญทองแดงรมดำ จำนวน ๑๕,๐๐๐ เหรียญ และเป็นเหรียญเงินจำนวน ๘๓ เหรียญ เท่าจำนวนอายุของท่านที่ย่างเข้าปีที่ ๘๓ ตัวเหรียญเป็นรูปวงรีคล้ายรูปไข่ ส่วนกว้างที่สุดประมาณ ๒.๖ เซนติเมตร สูงสุดประมาณ ๓.๔ เซนติเมตร เนื้อโละทำด้วยทองแดงรมดำ ด้านหน้าบนซ้ายมือมีอักษรปั๊มนูนสูงว่า "พ.ศ. ๒๕๐๓" ทางด้านขวามือมีอักษรเขียนว่า "อายุ ๘๒ ปี" ส่วนด้านล่างเขียนว่า "พระครูญาณวิลาศ (แดง)" ส่วนด้านหลัง ลงหัวใจพระพุทธคุณต่างๆ ไว้ด้วยภาษาขอม ตรงกลางด้านหลังลงยันต์สี่ มีหัวขมวด เป็นเหรียญที่ดังมาก พุทธคุณมีประสบการณ์สูงทาง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปัจจุบันหายากมากๆ

 เหรียญรุ่นแจกแม่ครัว เนื้ออัลปาก้า
 หลังจากที่เหรียญรุ่นหนึ่งสร้างประสบการณ์ต่างๆ มากมาย จนกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิเป็นที่เลื่องลือ ผู้คนต่างพากันมาขอเหรียญร่วมทำบุญ จนเหรียญรุ่นหนึ่งหมดไปจากวัด จึงได้มีการสร้างเหรียญรุ่นสอง สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ลักษณะองค์หลวงพ่อและอักขระเลขยันต์เหมือนกับเหรียญรุ่นหนึ่ง แต่ต่างกันที่คำว่า "เอ" (ซึ่งเป็นอักษรขอมตำแหน่งล่างสุด) ของรุ่นหนึ่งจะมีดูคล้าย "ฃ" แต่ของรุ่นสองดูคล้ายเลข "๘" เหรียญรุ่นสองนี้มีประสบการณ์แคล้วคลาดมากมายไม่แพ้รุ่นหนึ่งเลย ในการสร้างรุ่นที่สองนี้ ท่านได้สั่งทำเหรียญขนาดเล็กด้วยอัลปาก้า เพื่อสำหรับแจกแม่ครัวเรียกว่า "รุ่นแจกแม่ครัว" อีกด้วย

เหรียญรุ่นโจว เนื้อทองแดง
 ในงานฉลองอายุท่านเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ทางวัดได้สร้างเหรียญขึ้นใหม่ โดยใช้ข้อความและตัวอักษร เหมือนรุ่นหนึ่งทุกอย่าง แต่ใบหน้าหลวงพ่อเปลี่ยนไป ในปีเดียวกันนี้มีพ่อค้าได้สร้างเหรียญขึ้นอีกรุ่นเพื่อนำไปให้ท่านปลุกเสก คราวนี้ได้เปลี่ยนใบหน้าหลวงพ่อให้ชราภาพมากขึ้น ข้อความด้านหน้าเหรียญด้านบนปั๊มคำว่า " พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่ระลึกอายุครบรอบ ๘๙ ปี" ด้านล่างปั๊มคำว่า "พระครูญาณวิลาศ (แดง)" อักษรเลขยันต์ด้านหลังเหมือนรุ่นหนึ่ง แต่ได้ตอกภาษาจีนอ่านว่า " โจว" ไว้ที่ใต้ตัวอุ เหรียญรุ่นนี้มีเนื้อทองคำ นาค เงิน และทองแดงรมดำ เนื้อทองแดงมีจำนวน ๒,๐๐๐ เหรียญ

พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านมีอายุครบ ๙๐ ปี พลโท สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๑ ในขณะนั้น ซึ่งเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด ได้ขอให้ท่านทำเหรียญขึ้นอีกรุ่นเป็นรูปอาร์ม โดยได้ว่าจ้างให้กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ออกแบบ แกะพิมพ์และปั๊มเหรียญรุ่นนี้ขึ้น โดยจำนวนที่สร้างคือ เนื้อทองแดงมีจำนวน ๔๘,๐๐๐ เหรียญ ส่วนเนื้อเงินและทองคำ ตามจำนวนที่สั่งจอง เหรียญรุ่นนี้เรียกว่า "รุ่นแม่ทัพสร้าง" หรือ "เหรียญแม่ทัพ" และยังมีเนื้ออัลปาก้าอีกด้วย

เป็นเหรียญรุ่นที่ได้รับความนิยมมากรองจากรุ่น ๑ พิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้จัดว่ายิ่งใหญ่มาก เพราะนอกจากหลวงพ่อแดงท่านจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ยังจัดให้มีพิธีพุทธาภิเษก และมีมหรสพเฉลิมฉลอง ๕ วัน ๕ คืน ภายหลังจากพิธีจึงได้นำเหรียญออกให้เช่าบูชา

เมื่อเปิดให้เช่าบูชา มีทหารจำนวนมากได้เช่าบูชาไป แล้วนำไปทดลองยิงที่ข้างวัด ปรากฏว่า "ปืนแตก" ดังนั้น เหรียญรุ่นนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "รุ่นปืนแตก"

การนำไปลองยิงจนปืนแตก ทำให้มีผู้สนใจบูชากันจนเหรียญหมดภายในวันเดียว ดังนั้น มทภ. 1 จึงต้องสั่งให้ปั๊มขึ้นมาอีก โดยใช้แม่พิมพ์ที่เคยใช้ปั๊มเหรียญเนื้อทองคำและเนื้อเงิน ชนิดมีดาวมาปั๊มเหรียญเนื้อทองแดงด้วย โดยต้องเร่งใช้รถ GMC บรรทุกเหรียญมาให้หลวงพ่อแดงปลุกเสก โดยเหรียญที่ปั๊มเพิ่ม หลวงพอแดงปลุกเสกเดี่ยว ไม่ทันปลุกเสกหมู่ เพื่อให้ทันก่อนวันที่ ๑๙ เมย. ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นวันที่ได้ประกาศว่าจะเปิดให้เช่าบูชาเป็นครั้งที่ ๒
ในปี ๒๕๑๒ ได้มีการสร้างเหรียญที่ต่อมาได้รับความนิยมมากที่สุดเหรียญหนึ่ง คือ เหรียญ "รุ่นโบสถ์ลั่น" หรือ "เหรียญสองพี่น้อง" หรือ "เหรียญรูปซ้อนหลวงพ่อแดง-หลวงพ่อเจริญ"

หลวงพ่อเจริญ หรือ พระครูปัญญาโชติวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาส วัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี เป็นน้องชายร่วม บิดา-มารดาเดียวกับหลวงพ่อแดง มีอายุอ่อนกว่าหลวงพ่อแดง ๕ ปี มีความต้องการที่จะจัดสร้างเหรียญรูปซ้อนขึ้น เพื่อหาเงินมาสร้างและซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างและถาวรวัตถุ ภายในวัดทองนพคุณ จึงได้เข้าไปปรึกษาหลวงพ่อแดง ผู้เป็นพี่ชาย

เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเจริญจึงจัดสร้างขึ้นในปี ๒๕๑๒ แล้วนำไปให้หลวงพ่อแดงปลุกเสกก่อน ๑ พรรษา ภายหลังจึงจัดทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นที่วัดทองนพคุณ โดยนิมนต์เกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาคมเข้ามาร่วมปลุกเสก โดยมีหลวงพ่อแดง เป็นประธานในพิธี

 
เหรียญสองพี่น้อง
 ในขณะที่ปลุกเสกเหรียญรูปซ้อนดังกล่าวในพระอุโบสถนั่น ก็เกิดเสียงลั่นที่โน่นที่นี่ภายในโบสถ์ บรรดาญาติโยมและผู้ศรัทธาที่อยู่ใมโบสถ์ ต่างก็สอดส่ายสายตามองไปภายในรอบๆ โบสถ์ ว่ามีเหตุการณ์ผิดปรกติ โบสถ์จะร้าวลั่นแตกพังลงมาหรือไม่ ปรากฏว่า สภาพภายในก็เป็นปรกติ มีแต่เสียงที่ยังคงดังลั่นอยู่

หลังจากพิธีปลุกเสกได้เรียบร้อย เสียงดังกล่าวก็ได้เงียบหายไป ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพูดต่อกันปากต่อปาก เป็นที่โจษจันกันไปในเวลาอันรวดเร็ว

จากนั้นเมื่อนำเหรียญรูปซ้อนออกมาให้เช่าบูชา ปรากฏว่าเหรียญได้หมดไปจากวัดในเวลาสั้นๆ ไม่เพียงพอต่อผู้ที่เข้ามาเช่าหาบูชา หลวงพ่อเจริญจึงได้จัดสร้างเหรียญนี้ใหม่อีกครั้ง โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้แบบอย่างเหรียญเดิม แล้วนำเหรียญรุ่นที่ ๒ ดังกล่าวจำนวนหนึ่งมอบให้กับหลวงพ่อแดงที่วัดเขาบันไดอิฐ

พ.ศ. ๒๕๑๓ คณะนายทหารตำรวจจากโรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่น ๑๒ ซึ่งมี พลโท ฉลาด หิรัญศิริ เป็นประธานรุ่น ได้ขออนุญาตหลวงพ่อแดงสร้างเหรียญเพื่อเป็นที่ระลึกในการรับราชการครบ ๓๐ ปี แล้วนำมาให้หลวงพ่อแดงปลุกเสก ๑ ไตรมาสแล้วนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยพระเกจิชื่อดังทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง เหรียญรุ่นนี้มีโค้ดคำว่า "แดง" ซึ่งเป็นลายมือของหลวงพ่อ แกะเป็นแม่พิมพ์แล้วตอกลงไปด้านหน้าของทุกเหรียญ

   
พระผงญาณวิลาศ พิมพ์ใหญ่ เนื้อขาว
พระผงญาณวิลาศ พิมพ์คะแนน เนื้อแดง
 
นอกจากเหรียญรุ่น จปร แล้ว ในปี ๒๕๑๓ หลวงพ่อแดงท่านสร้างวัตถุมงคลหลายชนิด ท่านยังสร้างเหรียญรุ่น พศ. ๒๕๑๓ อายุ ๙๒ ปี และ "พระผงญาณวิลาศ" ไว้ด้วย พระผงญาณวิลาศนี้ หลวงพ่อแดงปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 ปีเต็ม แล้วจึงนำออกแจกในปี ๒๕๑๔ (ที่กล่องจะเขียนว่าปี ๒๕๑๔) โดยสามารถแบ่งได้เป็น ๓ พิมพ์ ด้านหลังปั๊มยันต์และอักขระของหลวงพ่อ คือ

 ๑. พิมพ์พระสมเด็จ แบ่งออกเป็น พิมพ์ตื้นซึ่งสร้างขึ้นก่อน หายาก, พิมพ์ลึกเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันทั่วไปในวงการ พิมพ์สมเด็จมีสีแดง สีเหลือง สีขาว พิมพ์ใหญ่จะมีขนาดกว้าง ๒.๒ เซ็นติเมตร สูง ๓.๖ เซ็นติเมตร นอกจากนี้ยังมี "พิมพ์คะแนน" ที่มีขนาดเล็กลงมา ทำขึ้นสำหรับคั่น เวลานับจำนวนพิมพ์ใหญ่ได้ครบทุก ๑๐๐ องค์ พระผงรุ่นนี้มีประสบการณ์มากมาย แม้กระทั่งตำรวจพลร่มโดดร่มลงมาแต่ร่มไม่กาง แต่กลับรอดตายราวปาฏิหาริย์ โดยในคอแขวนพระผงญาณวิลาศของหลวงพ่อแดงนั้นเอง
 ๒. พิมพ์สามเหลี่ยมหรือพิมพ์นางพญา

 ๓. พิมพ์พระปิดตา
โดยทั้ง ๓ แบบมีเนื้อ ๔ สีคือ ขาวอมเหลือง แดง เทา และดำ และนอกจากเนื้อผงแล้วก็มีเนื้อชินอีกด้วย
มวลสาร (บางส่วน) ที่นำมาผสมในองค์พระมีดังนี้

  เหรียญรุ่นคุกเข่า
 วัตถุมงคลของท่านยังมีอีกหลายรุ่น เช่น ยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี สร้างรุ่นพิเศษ "ไตรภาคี" เนื้อผงสีแดง พิมพ์พระแก้วมรกต พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธชินราช นำมาให้ท่านปลุกเสก , รุ่นวัดเทพธิดา (หลังโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ) สร้าง, เหรียญที่มีรูปท่านเต็มองค์นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าเหรียญ เรียกว่า "เหรียญคุกเข่า" ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗

พระครูญาณวิลาศหรือหลวงพ่อแดงมรณภาพวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ด้วยโรคชราที่วัดเขาบันไดอิฐ สิริอายุ ๙๖ ปี พรรษาที่ ๗๔

   

ครั้น ถึงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2517 ตรงกับแรม 8 ค่ำ เดือน2 เวลา 21.05 น.หลวงพ่อแดงมรณภาพด้วยโรคชราที่วัดเขาบันไดอิฐ สิริอายุ 96 ปี พรรษาที่ 74 ก่อนตายท่านเคยพูดกับพระปลัดบุญส่ง ธมัมปาโล รองเจ้าอาวาสวัดขณะนั้นว่า
 
 "เมื่อ ฉันหมดลมหายใจแล้วอย่าเผา ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ และให้เอาเหรียญรุ่นแรกของฉันใส่ปากไว้ 1 เหรียญ ฉันจะได้เสกไว้ได้และเงินพดด้วง 1 ก้อน ส่วนนี้ฉันเอาไปได้และให้เอาขมิ้นมาทาตัวฉันให้เหลืองเหมือนทองคำ"



วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาอ่าวอุดม สะสมทรัพย์

หมวดหมู่สินค้า

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม468,241 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด383,005 ครั้ง
เปิดร้าน12 มี.ค. 2559
ร้านค้าอัพเดท5 ต.ค. 2568

CONTACT US

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านชำนาญศิลป์พระเครื่อง
ชำนาญศิลป์พระเครื่อง
ให้เช่า บูชา พระเครื่อง พระบูชา เหรียญเกจิอาจารย์ พระกรุ พระเนื้อดิน เนื้อชิน พระเนื้อผง เครื่องราง ผ้ายันต์ จตุคาม หนังสือพระเก่า พระกริ่ง ตะกรุด รูปหล่อ รูปเหมือน เบี้ยแก้ หลวงปู่ทวด สมเด็จโต เสือ กุมารทอง จตุคาม หน้งสือพระ หนังสือเก่า ปลัดขิก พระปิดตา พระวัดปราสาท พระสมเด็จ พระเหรียญ พระใหม่ พระเก่าของสะสม กะลา น้ำเต้า เนื้อว่าน พระราหู พระพิฆเณศ พระประจำวัน
เบอร์โทร : (084)3995699 (092)9419554
อีเมล : sron_333@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม